ทริปนี้เราจะไปเที่ยวจังหวัดแถวอีสานใต้ จังหวัดที่ว่านั่นคือ "จังหวัดศรีสะเกษ" จังหวัดที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม และสถานที่ที่เราจะไปคือ "ผามออีแดง" สถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

ก่อนที่จะเข้าเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต้องจ่ายค่าบัตรผ่านอุทยานก่อน เพื่อเป็นค่าบำรุงสถานที่ 
- ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา 10 บาท 
- ค่ายานพาหนะ 4 ล้อ 30 บาท จักรยานยนต์ 20 บาท จักรยาน 10 บาท
 

ช่วงที่เราไปเที่ยวเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคม แดดจ้า อากาศค่อนข้างร้อน ถ้าไปเที่ยวหน้าร้อนแนะนำให้เตรียมร่มไปด้วย !!!

ถนนจากตัวอำเภอกันทรลักษ์มาจนถึงผามออีแดง ต้องบอกเลยว่าถนนดีมาก ป่าไม้ข้างทางก็อุดมสมบูรณ์ มาเที่ยวหน้าหนาวหรือหน้าฝนคงจะฟินไปอีกแบบนะ ใครมาเที่ยวศรีสะเกษแล้วไม่มาผามออีแดงขอบอกเลยว่า พลาด !!!

เดินทางมาเหนื่อยๆ ท้องเริ่มหิวก็พักกินข้าวก่อน สำหรับใครที่กลัวว่ามาเที่ยวแล้วจะลำบาก ขอให้คิดใหม่ !!! เพราะที่ผามออีแดงมีร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกมากมาย พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว

ผามออีแดง ตั้งอยู่ที่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

หน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

ด้านล่างหน้าผาจะเป็นพื้นที่ของประเทศกัมพูชา

ผามออีแดง แห่งนี้มีความสูงจากระดับนำทะเลปานกลาง 550 เมตร

ในหน้าหนาวนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะมาชมทะเลหมอก จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกว่าเวลาที่เห็นทะเลหมอก คือ ช่วงเวลา 05.30 - 7.00 น.

ผามออีแดงมีระยะทางแนวหน้าผาประมาณ 300 เมตร 
ผามออีแดง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-16.30 น.

หน้าผามีความสูงชันมาก ยืนใกล้ๆ หน้าผาแล้วรู้สึกขาสั่นกันเลยทีเดียว ในช่วงหน้าฝนถ้าหากมาเที่ยวก็ควรใช้ความระมัดระวังให้มากๆ 

มาเที่ยวผามออีแดงต้องมาถ่ายรูปกับป้ายนี้ สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่สำหรับผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาเที่ยวด้วย ควรดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เที่ยวเองเด็ดขาด

เดินถ่ายรูปมาเรื่อยๆ จนถึงศาลาที่มีธงชาติไทยตั้งอยู่ บริเวณนี้จะมีเจ้าหน้าที่ทหารของฝั่งไทยประจำการอยู่ รวมทั้งมีกล้องส่งทางไกลให้นักท่องเที่ยวได้ส่องกล้องดู "เขาพระวิหาร"

ภาพด้านล่าง คือ ปราสาทเขาพระวิหาร ที่ทอดยาวไปตลอดแนวเขา

แต่ก่อนเวลานักท่องเที่ยวจะขึ้นไปเที่ยวเขาพระวิหารต้องขึ้นทางฝั่งไทยเท่านั้น ทางขึ้นจะอยู่ตรงตีนเขาของฝั่งไทยแค่ฝั่งเดียว ต่อมาเกิดขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา กัมพูชาจึงได้ตัดถนนเป็นทางขึ้นใหม่ในเขตของกัมพูชาเอง และถ้าจำไม่ผิดตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2542 เป็นต้นมาทางขึ้นทางฝั่งไทยได้ปิดถาวร

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยาน ได้บอกว่า ปัจจุบันหากต้องการไปเที่ยวปราสาทเขาพระวิหาร ต้องบินไปลงที่เสียมเรียบแล้วซื้อทัวร์มาขึ้นเขาพระวิหารทางฝั่งกัมพูชา (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มีนาคม 2558)

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 
สามารถติดต่อ สำนักงาน ททท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 โทรศัพท์ 045-243770

อีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวผามออีแดงที่ขาดไม่ได้ คือ การเดินลงบันไดไปชม ภาพแกะสลักนูนต่ำ

ทางเดินเลียบหน้าผาเพื่อลงไปดูภาพแกะสลักนูนต่ำ บันไดดูมั่นคงแข็งแรงไม่หวาดเสียวเหมือน ภูทอก จ.บึงกาฬ

เดินไม่นานก็ถึง ภาพแกะสลักนูนต่ำเป็นภาพคน 3 คน ในเครื่องแต่งกายแบบชาวกัมพูชา สร้างขึ้นก่อนปราสาทเขาพระวิหาร ราวกลางศตวรรษที่ 11 อายุประมาณ 1,500 ปี 

ผามออีแดงเป็นสถานที่เที่ยว Unseen อีกที่หนึ่งของไทย

Thaifinn.com ขอบอกว่าหากคุณได้มาเที่ยวผามออีแดง คุณจะตกหลุมรักในมนต์เสน่ห์ของที่นี่ มันมีเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมายให้คุณได้มาค้นหา 

สุดท้ายลากันไปด้วยภาพเขาพระวิหาร ขอบคุณทุกคนสำหรับการติดตามเว็บไซต์ ไทฟิน ดอทคอม